top of page
9 วิธีการจัดบ้านสำหรับผู้สูงอายุ
ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ ‘สังคมผู้สูงอายุ’ โดยมีประชากรผู้สูงอายุมากกว่า 10% ของประชากรทั้งหมดและคาดว่าจะมีการเพิ่มจำนวนผู้สูงอายุจนเป็นสัดส่วน 20% ในปี 2564 ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ ดังนั้น ‘บ้านสำหรับผู้สูงอายุ’ จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ควรให้ความสำคัญ และผู้สูงอายุเป็นบุคคลที่เราต้องดูแลเป็นพิเศษมากกว่าคนอื่นๆ ทั้งสุขภาพร่างกายและสภาวะจิตใจ ซึ่งการรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวต้องอาศัยการจัดบ้านเพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถอาศัยอยู่ได้อย่างปลอดภัยและมีความสุข วันนี้ DoCare Protect ได้รวม 9 วิธีการจัดบ้านสำหรับผู้สูงอายุมาฝากกัน
1.พื้นบ้าน
พื้นบ้านถือเป็นสิ่งสำคัญที่ควรใส่ใจ เพราะบ่อยครั้งที่พบผู้สูงอายุลื่นล้ม หากพื้นบ้านมีลักษณะมันวาว ดังนั้นเราควรเลือกปูพื้นบ้านที่มีผิวสัมผัสกันลื่นได้ ปัจจุบันมีน้ำยาฉีดพื้นเพื่อกันความมันวาวของกระเบื้อง หรือถ้าต้องการปูพรม ก็ต้องเก็บขอบพรหมให้สนิท เพื่อป้องกันผู้สูงอายุสะดุดและหกล้มได้
2. ประตู
ประตูบ้านหรือประตูอื่น ๆ ในบ้านต้องมีความกว้างกว่าปกติ เพราะจะช่วยให้ผู้สูงอายุเดินผ่านได้อย่างสะดวก โดยประตูบ้านปกติแล้วจะมีความกว้างอยู่ที่ 70 เซนติเมตร เราจึงควรเพิ่มขนาดความกว้างของประตูเป็น 90 เซนติเมตร และที่สำคัญควรเปลี่ยนเป็นประตูบานเลื่อนจะสะดวกต่อการเปิดปิดของผู้สูงอายุมากกว่าประตูบานพับ
3. ติดตั้งราวจับ
การติดตั้งราวจับนั้นควรมีความสูงประมาณ 80-90 เซนติเมตร จากระดับพื้น และควรติดตั้งตามบันได ทางเดินต่าง ๆ เข้าไปจนถึงห้องน้ำ หรือบริเวณห้องที่ผู้สูงอายุเข้าไปเป็นประจำ โดยวัสดุที่เลือกใช้ไม่ควรไม่เป็นชนิดที่ลื่นหรือมันวาว เพราะป้องกันการจับแล้วลื่นหลุดมือของผู้สูงอายุได้
4. โต๊ะสำหรับผู้สูงอายุที่ใช้รถเข็น
สำหรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุที่ใช้รถเข็น ควรเตรียมโต๊ะและอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้เอื้ออำนวยต่อการใช้งานของผู้ใช้งานที่อยู่บนรถเข็น โดยความสูงของโต๊ะต้องมีระดับต่ำกว่าความสูงของโต๊ะปกติ มีความสูงหน้าโต๊ะอยู่ที่ 75 เซนติเมตร และความสูงใต้โต๊ะ 60 เซนติเมตร โดยไม่ควรมีลิ้นชักหรือช่องอื่นๆ ใต้โต๊ะนั้น เพื่อความสะดวกในการใช้งาน
5. แสงสว่างภายในบ้าน
แสงสว่างภายในบ้านควรมีความสม่ำเสมอ เนื่องจากผู้สูงอายุมีสายตาที่ตอบรับกับแสงสว่างช้ากว่าปกติ เวลาที่อยู่ในที่สว่างแล้วต้องเดินไปที่มืดจึงเป็นเรื่องที่ลำบากของผู้สูงอายุ ดังนั้นระหว่างห้องนอน ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่นต้องมีความสว่างของไฟที่สม่ำเสมอกัน เพื่อลดโอกาสหกล้มจากการก้าวพลาด
6. ติดตั้งปลั๊กไฟ
ควรติดตั้งปลั๊กไฟให้มีความสูงพอดีกับการที่ผู้สูงอายุสามารถเอื้อมถึงได้โดยที่ไม่ต้องก้มหรือต้องลุกขึ้นยืนทุกครั้งที่ต้องการใช้งาน และสวิตช์ไฟควรมีขนาดใหญ่กว่าปกติเพื่อการหยิบจับที่สะดวก ตัวสวิตช์ควรเป็นสีขาวหรือเรืองแสงในที่มืดได้เพื่ออำนวยความสะดวกการมองเห็นที่ง่ายขึ้น
7. หลีกเลี่ยงการมีพื้นต่างระดับ
การมีพื้นต่างระดับในบ้านนั้นจะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุกับผู้สูงอายุได้เป็นอย่างมาก ถ้าบริเวณไหนในบ้านต้องมีพื้นที่ต่างระดับจริง ๆ ควรมีพื้นทางลาดควบคู่กับพื้นต่างระดับเพื่อง่ายต่อการเดินหรือการใช้รถเข็นของผู้สูงอายุ
8. มีที่พักแขนสำหรับเก้าอี้ทุกตัว
การมีที่พักแขนให้กับเก้าอี้ทุกตัวจะช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถพยุงตัวจากการลุกนั่งได้ ทำให้ปลอดภัยและยังเพิ่มความสะดวกสบายเวลานั่งอีกด้วย
9. ติดตั้งเครื่องเตือนฉุกเฉิน
หากเป็นไปได้ ควรติดเครื่องขอความช่วยเหลือฉุกเฉินไว้ในจุดต่างๆ ของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำ ห้องนอน ห้องนั่งเล่น โดยเครื่องขอความช่วยเหลือฉุกเฉินที่แนะนำ ควรเป็นระบบที่ติดตั้งง่ายและครอบคลุมพื้นที่เสียงรอบตัวบ้าน ที่ผู้สูงอายุใช้ชีวิตอยู่บ่อยๆ เช่น DoCare Protect: Model S ที่สามารถแจ้งเตือนสมาชิกในครอบครัวเมื่อผู้สูงอายุต้องการขอความช่วยเหลือผ่านแอพพิเคชั่นได้ทันที เพื่อช่วยลดโอกาสการช่วยเหลือผู้สูงอายุไม่ทันเวลาเมื่อที่เกิดอุบัติเหตุ
จะเห็นได้ว่าการจัดบ้านสำหรับผู้สูงอายุถือเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะบ้านควรเป็นพื้นที่ที่ต้องปลอดภัยสำหรับผู้สูงอายุมากที่สุด แล้วในปัจจุบันก็มีตัวช่วยในการดูแลผู้สูงอายุจึงทำให้สมาชิกทุกคนในครอบครัวอุ่นใจ แม้ว่าเราจะไม่ได้อยู่ใกล้ชิดท่านได้ตลอดเวลา
bottom of page